บทความสุขภาพ

7 เหตุผลที่ทำให้”ปวด คอ บ่า ไหล่”ขณะนั่งทำงาน

ปวด คอ บ่า ไหล่ Bewell

ถ้าพูดถึงเรื่องสุขภาพในสมัยก่อนคนเราอาจจะไม่ใส่ใจมาก ส่วนใหญ่จะคิดว่าสุขภาพเป็นเรื่องของผู้สูงอายุที่ต้องได้รับการดูแลและใส่ใจเป็นพิเศษ แต่ในยุคปัจจุบันการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่ควรได้รับการใส่ใจและดูแลตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น หรือแม้แต่วัยทำงานก็ตาม เพราะไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ สุขภาพก็สามารถเสื่อมและพังไปตามการใช้งานได้ อย่างเช่น ในวัยเด็กมัธยม ที่ต้องเรียนหนัก เตรียมสอบ ทำให้ต้องนอนดึก หรือมีภาวะเครียดเกิดขึ้นได้  หรือวัยทำงานเป็นวัยที่คิดว่าเรามีแรงและสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ บางคนที่ทุ่มเทกับงานมากจนทำให้สุขภาพเสียก็มีเยอแยะในปัจจุบัน ดังนั้นการดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ทุกเมื่อ และตลอดเวลา 

โดยปัญหาสุขภาพของคนไทยในวัยทำงานที่พบได้บ่อยเลยก็คือ อาการ”ปวดคอ บ่า ไหล่” และหลัง ถือว่าเป็นอาการยอดฮิตเลยก็ได้ หากเดินเข้าไปถามในบริษัทแห่งหนึ่งคงได้เสียงตอบรับมาเป็นเสียงเดียวกันว่ามีอาการปวดหลัง ปวดคอจากการนั่งทำงานอย่างแน่นอน แล้วอาการ”ปวด คอ บ่า ไหล่” ขณะนั่งทำงาน จะมีสาเหตุจากอะไรบ้าง แล้วจะสามารถดูแลและปรับแก้อย่างไรเพื่อให้เกิดสุขภาพที่ดีต่อร่างกายได้บ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปตามอ่านกันได้เลยค่า 

7 เหตุผลที่ทำให้ปวดคอ บ่า ไหล่

ปวด คอ บ่า ไหล่ Bewell

1. จอคอมไม่อยู่ในระดับที่เหมาะสม 

การวางจอคอม หรือโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้ระดับสามารถส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อคอ บ่า และไหล่ได้ เนื่องจากการก้มศีรษะที่มากกว่ามุม 15 องศาขึ้นไป น้ำหนักที่จะตกลงบนกระดูกสันหลังคอจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หากก้มจนหน้าชิดกับคอ หรือประมาณมุมที่ 60 องศา กระดูกสันหลังคอจะรองรับน้ำหนักถึง 27 กิโลกรัม หากเราต้องก้มหน้าทำงานแบบนี้เป็นประจำทุกวัน กล้ามเนื้อคอก็อาจจะได้รับการบาดเจ็บซ้ำๆ จนทำให้เกิดอาการปวดคอ ร้าวมาบ่า และไหล่ และอาจจะทำให้ส่งผลกระทบต่อกระดูกสันหลังในส่วนอกและส่วนเอวตามมาได้ ดังนั้นการปรับหน้าจอคอมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ควรปรับ โดยระยะที่เหมาะสมของจอคอมควรอยู่ห่างจากลำตัวประมาณ 40- 70 เซนติเมตร หรือประมาณ 1 ช่วงแขนของตัวเรา และสายตาควรอยู่ที่ระดับขอบบนของหน้าจอคอม แต่ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของหน้าจอคอมด้วย และหากใครที่ใช้โน๊ตบุ๊คก็ควรปรับให้อยู่ในระดับสายตาเช่นกัน อาจจะใช้หนังสือปรับให้โน๊ตบุ๊คสูงขึ้น หรือง่ายๆก็สามารถแท่นวางโน๊ตบุ๊คเพื่อปรับระดับได้ตามความต้องการ และทางที่ดีควรมีแป้นพิมพ์แยกออกมาจากโน๊คบุ๊คด้วย เพราะอาจจะทำให้เกิดการข้อมือหัก และทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ 

ปวด คอ บ่า ไหล่ Bewell

2. ตำแหน่งการมองจอไม่เหมาะสม

การทำงานในบางตำแหน่งก็ต้องมีการใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์มากกว่า 1 เครื่อง ทำให้การมองเห็นต้องคอยสลับการมองหน้าจอคอม ทำให้ต้องเกิดการหมุนศีรษะอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งน้ำหนักที่กดลงบนแนวกระดูกสันหลังคอจะเพิ่มขึ้นด้วย อีกทั้งยังเป็นการทำให้เกิดพฤติกรรมการทำงานซ้ำๆ ของกล้ามเนื้อคอ จึงอาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บทั้งตัวกล้ามเนื้อ หมอนรองกระดูกสันหลังคอ รวมไปถึงเส้นประสาทได้ ดังนั้นหากจำเป็นต้องใช้สองหน้าคอมในการทำงาน ก็ควรปรับให้หน้าจอทั้งสองให้อยู่ตรงหน้าให้เท่า ๆ กัน เพื่อทำให้การมองเห็นได้ทั้งสองจอ และอีกหนึ่งวิธี คือ การนำหน้าจอที่ใช้ประจำเป็นหลักวางไว้ตรงด้านหน้าและอีกจอวางไว้ด้านข้างซึ่งอีกจอที่วางไว้ด้านข้างควรวางในตำแหน่งตาข้างที่เรามองถนัดด้วย

ปวด คอ บ่า ไหล่ Bewell

3. ท่านั่งไม่ถูกต้อง

การนั่งทำงานในออฟฟิศเป็นสาเหตุของการปวดคอ บ่า ไหล่ และหลังเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากการนั่งทำงานในออฟฟิศก็จะเป็นการนั่งในท่าเดิมๆ การนั่งแช่ หรือการนั่งผิดท่าอย่างเช่น การนั่งไขว่ห้าง ขัดสมาธิ หรือการนั่งยื่นหน้าเข้าไปใกล้จอคอม เช่นกราฟิคที่ต้องใช้ความละเอียดในการทำงาน ซึ่งท่านั่งเหล่านี้หากเราทำเป็นประจำทุกวันไม่ได้รับการแก้ไข เช่น ท่านั่งไขว่ห้าง สามารถทำให้กระดูกสันหลังของเราคดได้ จากการที่กล้ามเนื้อทั้งสองข้างทำงานไม่ได้สมดุลกันทำให้กล้ามเนื้อฝั่งแข็งแรงมีการดึงกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดการคดของหลังได้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมท่านั่งก็สามารถลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้ และลดน้ำหนักที่กดทับต่อแนวกระดูกสันหลังลงไดด้วย โดยการปรับท่านั่งเริ่มจาก ปรับให้คอตรง ไม่ยื่นไปทางด้านหน้า การวางมือและแขนที่มุมข้อศอกประมาณ 90-120 องศา และให้วางระดับเดียวกับเมาส์และแป้นพิมพ์ โดยหากที่วางแขนปรับระดับไม่ได้ก็อาจจะหาหมอนมารองเพื่อรองรับกับแขะได้พอดี และทำให้ไหล่ไม่ยก หลังควรตั้งตรงหรือเอนพิงพนักไปเล็กน้อย ที่มุมประมาณ 90- 110 องศา โดยอาจจะหาหมอนมารองรับแผ่นหลังเพื่อลดการกดทับของหมอนรองกระดูกสันหลัง มุมเข่าและสะโพกควรอยู่ที่มุมประมาณ 90-100 องศา และสุดท้ายเท้าควรวางราบไปกับพื้น หรือถ้าเท้าลอยก็ควรหากล่องมาวางรองเท้า เพื่อไม่ให้เกิดการกดทับใต้ข้อพับเข่า

ปวด คอ บ่า ไหล่ Bewell

4. การเคลื่อนไหวของร่างกายมีปัญหา เช่น กล้ามเนื้อคอ บ่ามีอาการตึง 

เมื่อการนั่งทำงานของเราไม่ได้รับการปรับให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม มีการนั่งผิดเป็นประจำสม่ำเสมอ และไม่เคยไ่ด้รับการปรับสภาพแวดล้อมของโต๊ะทำงานมาก่อน ซึ่งทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อทำงานไม่สมดุลกัน จนเกิดเป็นลักษณะที่แสดงออกมาเป็นคนไหล่ห่อ คอยื่น หลังค่อม ซึ่งก็จะทำให้บุคลิกภาพของเราเสียได้ และถ้าหากเรายังทำพฤติกรรมเดิมๆ ร่างกายจึงส่งสัญญาณออกมาเป็นอาการปวดคอ บ่า หรือปวดหลัง หากนานเข้าก็ทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการอ่อนแรงตามมาได้ ทำให้ร่างกายสูญเสียประสิทธิภาพในการทำงาน หรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตประจำวันก็ทำให้เกิดการถดถอยลงไปได้ ซึ่งเราสามารถป้องกันและแก้ไขได้ โดยการปรับพฤติกรรมของเราเอง โดยปรับปท่านั่งทำงน หาอุปกรณ์เสริม และสิ่งสำคัญคือการพักการใช้งานกล้ามเนื้อ ควรจะลุกออกจากโต๊ะทำงานทุก 2 ชั่วโมง ไม่ควรทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน การยืดกล้ามเนื้อคอ บ่า และหลัง เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่เกิดความตึงตัวจากการนั่งทำงานในท่าเดิมๆ เป็นเวลานาน และสุดท้ายการเพิ่มกำลังให้กับกล้ามเนื้อจะเป็นสื่งที่ทำให้อาการปวดคอ บ่า ไหล่ และหลัง ลดลงไปได้อย่างยั่งยืน อาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อที่จะกลับมาเป็นซ้ำจะลดน้อยลง และทำให้เราลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลตัวเองลงไปได้ด้วย

ปวด คอ บ่า ไหล่ Bewell

5. เก้าอี้ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน

เก้าอี้ส่วนใหญ้ในสำนักงาน หรือในบริษัทจะเป็นเก้าอี้ที่มีพนักพิงหลัง แต่ไม่มีพนักพิงศีรษะ และบางตัวก็ไม่สามารถปรับความสูงของเก้าอี้ รวมไปถึงปรับระดับที่วางแขนไม่ได้ ทำให้กล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ไม่ได้รับการซัพพอร์ตเท่าที่ควรจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อขึ้นได้เป็นประจำซำๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะการที่กล้ามเนื้อเราต้องเกร็งค้างไว้ตลอดเวลาจะทำให้เกิดความตึงตัวขึ้นมาได้ เช่น กล้ามเนื้อคอที่ไม่ได้รับการซัพพอร์ตที่คอ หากเรามีการหันที่เร็วเกินไป หรือเอี้ยวตัวไปผิดท่าก็ทำให้กล้ามเนื้อที่เกิดความตึงตัวอยู่แล้วเกิดอาการบาดเจ็บขึ้นมาได้ จึงเป็นสามารถที่ทำให้เราเกิดอาการปวดคอ บ่า ได้นั้นเอง ดังนั้นเก้าอี้ที่เหมาะสำหรับการนั่งทำงานที่ดีควรจะเป็นเก้าอี้ที่ซัพพอร์ตได้ถึงศีรษะ มีพนักพิงหลัง มีที่วางแขน สามารถปรับระดับความสูงของเก้าอี้และมี 5 ล้อเพื่อความมั่นคงในการนั่ง

ปวด คอ บ่า ไหล่ Bewell

5. การมองจอคอมสลับกับเอกสารบ่อยครั้ง 

 ลักษณะอาการของการปวดคอ บ่า ไหล่ของสาเหตุนี้จะคล้ายๆกับการก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ เพราะต้องก้มมองเอกสารอยู่เป็นประจำ ซึ่งการก้มมองเอกสารเป็นประจำนำหนักของศีรษะก็จะกดลงบนแนวกระดูกสันหลังจนไปกดทับหมอนรองกระดูก หากปฏิบัติเป็นประจำ ก็อาจจะทำให้กล้ามเนื้อรอบคออ่อนแรง ไม่มั่นคง ส่งผลต่อหมอนรองกระดูกที่ปลิ้นออกไปทับเส้นประสาทได้ ทำให้เกิดอาการชาแขนขา และทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ในที่สุด การป้องกันที่ดีควรปรับให้เอกสารอยู่ตรงบริเวณแป้นพิมพ์ หรือตั้งไว้ด้านข้างหน้าจอคอมเพื่อให้การมองไม่ต้องก้มลงไปบ่อย หรือจะใช้ตัวช่วยอย่างที่ตั้งหนังสือ ช่วยทำให้เอกสารอยู่ระดับสายตาพอดีไม่ต้องก้มๆเงยๆ ขณะพิมพ์งาน และเป็นการลดการทำงานของกล้ามเนื้อคอได้ในระยะยาว

ปวด คอ บ่า ไหล่ Bewell

7. พักผ่อนไม่เพียงพอ 

การพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบหลายๆอย่างต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นร่างกายอ่อนเพลีย ภูมิต้านทานต่ำ หรือเป็นหวัดง่าย และอาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานให้มีประสิทธิภาพลดลง ไม่ได้งานตามที่คาดไว้ รวมไปถึงกล้ามเนื้อของเราที่ไม่ได้รับการพักผ่อน ก็ทำให้ยิ่มอ่อนล้า และแสดงอาการปวดตามร่างกายได้ เราควรค่อยๆปรับเรื่องงานกับการพักผ่อนให้สมดุลกัน โดยเริ่มจากการแบ่งงานที่ทำในแต่ละวันให้ไม่หนักจนเกินไป วางตารางเพื่อทำให้เราจัดการเคลียร์คิวตัวเองได้อย่างสะดวกขึ้น และควรพักผ่อนให้เพียงพอ โดยการพักผ่อนให้เต็มอิ่มนั้นสามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงการเล่นมือถือ และการทำงานก่อนเข้านอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟก่อนเข้านอน และสุดท้ายควรนอนหลับบนเตียงหรือบริเวณที่นอน เนื่องจากหากเราหลับบนโต๊ะทำงาน หรือโซฟาก็จะทำให้ร่างกายยังได้รับการพักผ่อนที่ไม่เต็มที่อยู่ดี การสร้างความคุ้นเคยให้ร่างกายรู้ว่าเตียงและที่นอนมีไว้เพื่อพักผ่อน ไม่ใช่ที่สำหรับทำงานก็จะทำให้การนอนของเราพักผ่อนได้อย่างเต็มที่แน่นอน

นอกจากทั้ง 7 เหตุผลที่กล่าวมาแล้วนั้น ก็ยังมีสาเหตุอื่นๆ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ก็สามารถทำให้เกิดอาการ”ปวด คอ บ่า ไหล่” ได้เช่นกัน ดังนั้นสาเหตุเหล่านี้ เราสามารถปรับแก้พฤติกรรมของเราได้ไม่ว่าจะเป็นการปรับเก้าอี้ การปรับท่านั่ง การหาอุปกรณ์เสริมมาช่วยปรับการนั่งทำงาน การออกกำลังกาย และการนอนหลับ พักผ่อนให้เต็มที่ เพียเท่านี้ก็ช่วยทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มคุณภาพของการใช้ชีวิตได้แล้ว 

การนั่งที่ดีต้องมีตัวช่วยอย่าง Ergo-Cushion Series Back and Seat 

การนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ ก็เกิดอาการเมื่อยหลัง ไม่สบายตัว ให้ตัวช่วยอย่างเบาะรองหลัง รองนั่งรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Bewell ที่ได้ออกแบบร่วมกับนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญด้านสรีระร่างกาย และการเคลื่อนไหว เพื่อออกแบบให้เบาะเข้ากับสรีระของคนไทยให้มากที่สุด โดยวัสดุทำจากเมมโมรี่โฟม นั่งแล้วยุบคืนตัว 100% มาพร้อมการผสมผงถ่านไม้ไผ่ ลดความอับชื้น และป้องกันกลิ่นอับ อีกทั้งตัวปลอกหุ้มเบาะรองหลังและรองนั่งเป็นผ้า Cooling cotton ที่จะให้ความเย็นสบาย พร้อมระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ตัวเบาะรองหลังและรองนั่งจะช่วยปรับท่านั่งให้หลังตรง และช่วยลดการกดทับใต้ข้อพับเข่า เพื่อช่วยป้องกันและบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากออฟฟิศซฺนโดรมได้ 

Slide
ฟรี! ปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพ
ปรับท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง
ตามหลัก Ergonomics

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *