บทความสุขภาพ

วิธีเช็คอาการตาล้าจากอุปกรณ์ดิจิตอล

ตาล้า Bewell

การจ้องมองคอมพิวเตอร์ หรือใช้อุปกรณ์ดิจิตอลต่อเนื่องเป็นเวลานานเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของดวงตา หรืออาการที่เรียกว่าตาล้า  ซึ่งแน่นอนว่าคนยุคใหม่มักจะมีอาการตาล้าที่ได้รับผลกระทบจากการใช้อุปกรณ์ดิจิตอล เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ฯลฯ  กันอย่างมาก ใครที่กำลังไม่มั่นใจว่าเราใช่สายตากับอุปกรณ์ดิจิตอลมากเกินไปจนเกิดอาการตาล้าหรือเปล่าลองไปเช็คตัวเองกันดูกับวิธีดีๆ ในการเช็คอาการตาล้าง่ายๆ สไตล์ญี่ปุ่น 

ตาล้า คืออะไร 

ตาล้า หรือ Asthenopia เป็นอาการของการผิดปกติบริเวณดวงตา แม้จะไม่ถึงกับเป็นโรค หรือความบกพร่องทางสายตา แต่ก็เป็นมีอาการที่บ่งชี้ว่าเริ่มผิดปกติ เช่น ตาแห้ง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตา แสบตาบ่อยๆ ในบางคนอาจจะมีอาการ ตามัว มองเห็นภาพซ้อน หรือปวดศีรษะร่วมด้วย ซึ่งสาเหตุมักมาจากการใช้สายตาอย่างต่อเนื่องและเป็นเวลานาน 

เอาล่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่า เราเริ่มมีอาการตาล้ากันบ้างหรือยัง วันนี้จะพาทุกคนไปเช็คอาการตาล้าด้วยวิธีแบบ ญี่ปุ่นๆ กัน  

ตาล้า Bewell
  • วิธีที่ 1 เช็คตาล้าจากการกระพริบตา

โดยปกติแล้วคนเราจะกระพริบตามากกว่า 20 ครั้งต่อนาที แต่ถ้าจับจองหรือใช้อุปกรณ์ดิจิตอล กล้ามเนื้อตามักจะเกร็ง และกระพริบตาน้อยลงมากๆ   ว่ากันว่าเมื่อจ้องจอสมาร์ทโฟนหรือจอคอม จะทำให้เรากระพริบตาน้อยลง เหลือน้อยกว่า 1/3 ของการใช้สายตาในยามปกติ ดังนั้นลองให้เพื่อนๆ สังเกตดูสิว่าคุณกระพริบตาบ่อยแค่ไหน 

ตาล้า Bewell
  • วิธีที่ 2 เช็คตาล้าจาก การเอาสมาร์ทโฟนถ่ายรูปเปิดแฟลช

คุณหมอท่านหนึ่งของญี่ปุ่น แนะนำวิธีเช็คอาการตาล้าหรือไม่ ด้วยการเอาสมาร์ทโฟนถ่ายรูปขณะเปิดแฟลช เพื่อดูว่าเมื่อเราถ่ายรูปในที่มืดแล้วเปิดแฟลชนั้น ดวงตาของเราสะท้อนจุดสีแดงออกมาหรือไม่ หลักการการทดลองในข้อนี้คือ เมื่อถ่ายรูปแบบแฟลช จอประสาทตาที่ปกติ เมื่อรับแสงแฟลชได้จะสะท้อนแสงกลับมาทำให้เกิดจุดสีแดงในภาพถ่าย แต่ถ้าหากว่าตาล้าจากการใช้อุปกรณ์ดิจิตอล ดวงตาจะรับแสงได้ไม่มี จะไม่สะท้อนกลับ หรือสะท้อนกลับน้อยทำให้ภาพถ่ายที่ออกมาตาจะไม่เป็นสีแดง

ใครที่สนใจจะทดลองเช็คอาการตาล้าด้วยวิธีนี้ ก็ทำได้ง่ายๆ  โดยให้อยู่ในห้องมืด ยืนห่างจากผู้ที่ถ่ายรูปให้สัก 2-3 เมตร แล้วให้เพื่อนของคุณถ่ายรูปแบบเปิดแฟลชดู หลังจากนั้นมาดูสิว่ารูปบนจอสมาร์ทโฟนที่ถ่ายออกมา มีจุดแดงที่ดวงตาหรือไม่แดง ถ้าในรูปมีจุดแดงที่ดวงตาก็แสดงว่า สุขภาพตาของคุณยังดีอยู่ แต่ถ้ามีจุดแดงแค่จางๆ หรือไม่มีเลย คุณอาจจะมีอาการตาล้าแล้วล่ะ 

รวมวิธีแก้ไขอาการตาล้าได้จากสิ่งรอบตัว 

  • แหงนมองท้องฟ้าเวลาเมฆครึ้ม

ฟังแล้วดูโรแมนติกใช่ไหมล่ะ อันที่จริงแล้ว การมองท้องฟ้าหรือมองทิวทัศน์ไกลๆ จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และเป็นการละสายตาจากหน้าจอได้ด้วย สำหรับผู้ที่มีอาการตาล้า แนะนำว่าควรมองท้องฟ้าเวลาเมฆครึ้มๆ สักหน่อย เพราะท้องฟ้าสดใสนั้น โดยปกติจะมีแสง Blue light แผ่ออกมาด้วย ซึ่งแสง Blue light ตัวนี้เป้นสาเหตุหนึ่งของอาการตาล้า คุณหมอชาวญี่ปุ่นจึงแนะนำว่า ถ้ารู้สึกตาล้าให้หลีกเลี่ยงการมองท้องฟ้าสดใส แต่ให้ผ่อนคลายด้วยการมองท้องฟ้าเวลาเมฆครึ้มแทน

  • ประคบร้อน เย็นด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก

ถ้ารู้สึกตาล้า ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตา ให้ใช้ผ้าเช็ดตัวขนาดเล็กชุบน้ำหมาดๆ แช่เย็นแล้วมาประคบดวงตา หลังจากนั้นสลับด้วยการาผ้าเช็ดชุบน้ำอุ่นๆ มาประคบต่อ การประคบเย็นจะช่วยให้หลอดเลือดในดวงตาหดตัวลง เมื่อประคบอุ่นก็จะช่วยคลายกล้ามเนื้อในดวงตา การประคบร้อนเย็นสลับกันจึงทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น บรรเทาอาการตาล้าได้ดี แถมยังทำได้ง่ายอีกด้วย 

  • นวดขมับด้วยด้ามแปรงสีฟัน

วิธีการนี้ง่ายมาก และได้ผลดีด้วย ใครที่รู้สึกตาล้า ปวดขมับ ลองให้ด้ามแปรงสีฟัน จิ้มแรงๆ เข้าไปที่ขมับ หลังจากนั้นให้กดๆ หมุนๆ แรงๆ สัก 10 วินาที จะรู้สึกดีหรือผ่อนคลายขึ้นเลย 

อาการตาล้านั้น แม้ว่าโดยส่วนใหญ่มักหายได้เองหลังจากการพักสายตาในระยะเวลาหนึ่ง แต่ถ้ามีอาการเรื้อรังหรือรุนแรงขึ้น ก็จะส่งผลกระทบกับชีวิต อาจจะต้องไปหาหมอเพื่อดูแลเช่นกัน ดังนั้นหันมาดูแลสุขภาพสายตา ลดการใช้หน้าจอ หรือหาแว่นตากรองแสงมาช่วยป้องกันดวงตาก่อนที่จะเกิดอาการตาล้าจะดีกว่านะคะ

Slide
ฟรี! ปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพ
ปรับท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง
ตามหลัก Ergonomics

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *