Bewell App - Health Tips, บทความสุขภาพ

ตาล้า เพราะแสงไฟในห้องไม่พอหรือเปล่า ?

ตาล้า bewell

ปัญหาทางสุขภาพจากการทำงานที่นอกจากอาการออฟฟิศซินโดรม ทุกคนคงเคยประสบปัญหาเหล่านี้แน่นอน “ตาล้า” ตาแห้ง ระคายเคืองตา แสบตา หรือคันตา ปัญหาที่เกิดจากการจ้องมองจอคอม เอกสาร จอมือถือ หรือจอทีวีนานมากเกินไป ซึ่งในวงการแพทย์เรียกว่าภาวะนี้ว่า “Computer vision syndrome” ซึ่งนอกจากอาการตาล้าแล้วนั้นอาจเกิดอาการปวดหัว เวียนหัว หรือปวดกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ร่วมด้วยได้

ทำไมตาล้าจากการมองจอ

ตาล้า bewell
  • แสงไฟไม่พอ  

ปัญหาแสงไฟไม่พอ เช่น ห้องมืดเกินไป ไฟในห้องมีดวงเดียว แสงไฟในตำแหน่งที่ทำงานสลัว หรือแสงไฟที่ส่องสว่างไม่เพียงพอ ปัญหาเหล่านี้ทำให้เราต้องใช้สายตามากเกินไป ต้องเอาหน้าเข้าไปใกล้กับสิ่งที่เรามองจนทำให้สายตาเราล้าได้ และยิ่งเมื่ออายุมากขึ้นการใช้สายตาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นตามทางกายภาพของร่างกาย ซึ่งในห้องทำงานจึงควรมีแสงไฟที่เพียงพอต่อการใช้งาน เพื่อไม่ให้เกิดภาวะตาล้าได้นั่นเอง  

  • แสงจ้าเกินไป 

แสงไฟที่จ้าหรือมากเกินไปจะทำให้เกิดแสงไฟตกกระทบ(Glare light) เข้าที่ตาได้ เช่น แสงไฟจากจอคอม เมื่อแสงจ้าเกินไปก็ส่งผลต่ออารมณ์และความไม่สบายตาในการมองได้ ทำให้ตาแห้ง และระคายเคืองได้ง่ายง่าน อีกทั้งยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเราแย่ลงอีกด้วย   

  • ระยะในการมองไม่เหมาะสม

ระยะการมองนั้นก็ขึ้นอยู่กับท่าทางในการนั่งทำงาน เช่น ระดับของโน๊ตบุ๊คไม่อยู่ในสายตา ทำให้ต้องก้มมองจอตลอด หรือระยะของหน้าจอใกล้หรือไกลเกินไป ควรปรับให้ระดับของหน้าจอที่เราจะใช้ดูให้ตาเราอยู่ขอบจอด้านบนของโน๊ตบุ๊คหรือ จอทีวี และห่างประมาณ 1 ช่วงแขน ก็จะช่วยทำให้การมองเห็นของเราสบายขึ้น และยังลดการทำงานของกล้ามเนื้อคอ บ่าไปพร้อม ๆ กันได้ด้วย 

การจัดแสงไฟในห้องที่ควรจะเป็น  

ตาล้า bewell
  • จัด Workstation ให้ตั้งฉากกับช่องหน้าต่างกับแผงไฟเหนือศีรษะ เพราะถ้าหากจัดโซนการทำงานเข้าหาทางหน้าตาโดยตรงจะทำให้แสงจากข้างนอกกระทบกับตาเราโดยตรง ทำให้ตาเรารับแสงมากเกินไป อาจเกิดอาการตาแห้งหรือระคายเคืองได้ และถ้าหันหน้าจอหันหลังให้กับหน้าต่างก็จะทำให้เกิดแสงที่ตกกระทบที่หน้าจอเข้าตาเรามากเกินไป ทำให้เราต้องใช้สายตามากกว่าปกติ และเกิดอาการ “ตาล้า” ได้ในที่สุด 
  • มีม่านกั้นแสงธรรมชาติ  เพื่อลดแสงจากภายนอกและแสงตกกระทบที่จะเข้าตาเรา
  • กำจัดแสงที่เป็นแสงสะท้อนที่เข้าตาโดยตรง เช่น มีม่านกั้น หันหน้าจอตั้งฉากกับหน้าต่าง เพิ่มแสงไฟในห้องให้เหมาะสมกับการใช้งาน
  • หรี่ไฟให้ไม่สว่างจ้าเกินไป เช่น ไม่ใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนส์ เพราะแสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนส์จะสว่างจ้าเกินไปไม่เหมาะกับการใช้งานในห้องทำงาน ควรเป็นหลอดไฟชนิด LED ที่แสงไฟโทนเย็นซึ่งเป็นแสงไฟที่เหมาะสม อีกทั้งยังทนทานและใช้งานได้ยาวนานกว่าฟลูออเรสเซนส์อีกด้วย
  • มีตัวกรองไฟเหนือศีรษะ เพื่อไม่ให้แสงจ้าหรือเกิดแสงกระตบเข้าตามากเกินไป
  • มีแผ่นกรองแสงที่หน้าจอ ลดแสงกระทบที่จะเข้าตาได้ และยังช่วยทำให้การมองเห็นสบายตามากขึ้นด้วย
  • ใช้หลอดไฟที่ป้องกันแสงสะท้อน
  • หน้าต่างควรย้อมสี ซึ่งสีที่ควรย้อมเป็นสีโทนเย็น (cool) หรืออบอุ่น (warm) เพื่อความสบายตาในการมองจอคอม หรือเอกสารต่าง ๆ

หมายเหตุ กระจกโพลาไรซ์ช่วยลดและป้องกันแสงที่ตกกระทบที่จะเข้ามาในตาได้ เพื่อทำให้การมองเห็นสบายตามากขึ้น 

วิธีป้องกันอาการตาล้า 

ตาล้า bewell

นอกจากการจัด Workstation และการจัดแสงให้เหมาะสมกับการนั่งทำงานแล้วนั้น สิ่งสำคัญเลยคือ การพักสายตา เพราะหากเราสายตาจ้องมองอะไรนาน ๆ ก็ส่งผลให้เกิดผลเสียต่อสภาพร่างกายได้อย่างแน่นอน ซึ่งวิธีที่อยากแนะนำนั้นก็คือ  “กฏ 20-20-20”  หรือ การพักสายตาทุก 20 นาที มองไกล 20 ฟุต 20 วินาที จะเป็นการถนอมสายตาและช่วยทำให้ลดภาวะปัญหา Computer vision syndrome ที่สามารถเกิดขึ้นกับเหล่าพนักงานออฟฟิศได้ อีกทั้งการพักบ่อย ๆ ยังช่วยลดอาการปวดคอ บ่า หลัง ให้ดีขึ้นได้อีกด้วย

ไฟดีแล้ว แล้วจอได้ระดับมองเห็นที่ดีหรือยัง ?

ตัวช่วยที่จะทำให้การมองเห็นดีขึ้น ปรับให้หน้าจอได้ระดับสายตา ไม่ต้องคอยก้มคอ ลดอาการปวดคอขณะทำงานได้อีกด้วย ต้องนี่เลย “Laptop stand” หรือแท่นวางโน๊ตบุ๊คเพื่อสุขภาพ สามารถปรับให้โน๊ตบุ๊คอยู่ในสายตาได้เกิน 1 นาที ก็ทำให้เราสุขภาพดีขึ้นได้ ใครที่ทำงานแล้วต้องก้มคอบ่อย ๆ แนะนำว่าของมันต้องมี ! สั่งซื้อสินค้าได้ที่ด้านล่างเลย 

Slide
ฟรี! ปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพ
ปรับท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง
ตามหลัก Ergonomics

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *