เคยไหมที่เดิน ๆ อยู่ หรือในขณะที่กำลังหอบเอกสารกองโต แล้วเกิดรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ค่อยออก ซึ่งนั้นอาจเป็นอาการที่มีสาเหตุมาจาก การหายใจไม่อิ่ม (Dyspnea หรือ Shortness of Breath) เป็นอาการที่ทำให้เราไม่สามารถหายใจสูดอากาศเข้าไปได้อย่างเต็มที่ หรืออีกอาการที่เรียกว่า หายใจไม่เต็มปอด ทำให้หายใจได้แบบเป็นจังหวะสั้น ๆ หรือรู้สึกหายใจไม่ออก ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ใช้แรงหนักให้ระหว่างที่กำลังทำงาน เดินขึ้นบันไดที่ออฟฟิศจนเหนื่อย ทำให้หอบและหายใจไม่ทันหรือหายใจถี่เป็นช่วงสั้น ๆ เป็นต้น
การหายใจไม่อิ่มจะมีลักษณะอาการต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อระบบการหายใจ เช่น
- หายใจไม่สะดวก รู้สึกเหมือนอากาศไม่พอ คล้าย ๆ ติดอยู่ในลิฟท์เป็นเวลานาน
- หายใจเป็นจังหวะสั้น ๆ หายใจถี่ ไม่สามารถหายใจเข้าลึก ๆ แบบตามปกติได้ ทำให้ออกซิเจนเข้าไปในปอดได้น้อย
- รู้สึกอึดอัด แน่นหน้าอก
- บางครั้งอาจร้ายแรงถึงขั้นหายใจไม่ออก หรือรู้สึกเหมือนจะขาดใจ
อาการหายใจไม่อิ่มสามารถแก้ไขได้ด้วยการออกกำลังกาย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมไปถึงฝึกเทคนิคการหายใจ เช่น
-
การฝึกหายใจแบบห่อริมฝีปาก
เป็นวิธีการหายใจที่ช่วยควบคุมจังหวะการหายใจให้ช้าลง ทำให้สูดหายใจได้ลึกขึ้นจนร่างกายสามารถรับออกซิเจนได้อย่างเต็มที่ และยังเป็นการช่วยปล่อยอากาศที่กักเอาไว้ภายในปอดให้ออกมาอย่างช้า ๆ โดยวิธีการ คือ ให้หายใจเข้าทางจมูก จากนั้นห่อริมฝีปากแล้วหายใจออกโดยปล่อยลมหายใจออกทางปากอย่างช้า ๆ การหายใจแบบห่อริมฝีปากสามารถทำได้ทุกครั้งเมื่อเกิดความรู้สึกว่าเรากำลังหายใจไม่อิ่ม หรือหายใจไม่สะดวก โดยเฉพาะในขณะทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงอย่างหนัก เช่น การขนของ หรือการขึ้นบันไดในระหว่างวัน เป็นต้น
-
การฝึกหายใจด้วยท้อง
เป็นการช่วยให้กล้ามเนื้อกระบังลมที่อยู่ระหว่างหน้าอกและช่องท้องใต้ปอดทำงานได้ดีขึ้นและช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น โดยให้วางฝ่ามือข้างหนึ่งลงบนหน้าอก และวางฝ่ามืออีกข้างลงบนหน้าท้อง ในขณะที่หน้าท้องป่องขึ้นตอนที่หายใจเข้าทางจมูก ให้ใช้ฝ่ามือกดลงบนหน้าท้องเบา ๆ ตอนที่กำลังหายใจออกเพื่อไล่อากาศ ซึ่งวิธีการนี้ก็สามารถใช้ร่วมกันกับวิธีการหายใจแบบห่อริมฝีปากได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการหายใจ และยังช่วยบรรเทาอาการหายใจไม่อิ่มให้ดีขึ้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
-
การฝึกหายใจในขณะที่กำลังออกกำลังกาย
เป็นการฝึกเทคนิคการควบคุมลมหายใจในขณะที่เรากำลังทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงอย่างหนัก โดยควรฝึกหายใจเข้าหรือออกให้เป็นจังหวะตามท่าทางการออกกำลังกาย โดยเน้นให้ทำการหายใจออกในขณะที่เราต้องใช้แรงมาก แต่หากเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น เดิน วิ่ง เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ วิธีการหายใจจะแตกต่างจากการเล่นเวทหรือยกน้ำหนักที่มีจังหวะในการหายใจที่ชัดเจน ทำให้การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะต้องใช้ออกซิเจนในการหายใจที่มากกว่า จึงควรทำการวอร์มร่างกายก่อนทำออกกำลังกายทุกครั้ง และควรเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการหายใจเข้าและออกอย่างช้า ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนได้อย่างเพียงพอในขณะออกกำลังกาย
หากใครที่เริ่มมีอาการหายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่าย อย่าลืมดูแลตัวเองให้ดียิ่งขึ้น หาเวลาไปออกกำลังเพื่อกระตุ้นการหายใจให้ดียิ่งขึ้นกันนะคะ แต่หากใครไม่มีเวลาล่ะก็ Bewell มีไอเท็มยางยืดออกกำลังกาย ที่ช่วยคุณออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น สามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน หรือที่บ้าน